รถเก๋งมือสองเครื่องยนต์เบนซิน vs ดีเซล เลือกแบบไหนดี?

รถเก๋งมือสองเครื่องยนต์เบนซิน vs ดีเซล เลือกแบบไหนดี?

ไขข้อสงสัยระหว่างรถเก๋งมือสองเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซลแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน

ในปี 2025 ที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว และ ราคาน้ำมันยังคงผันผวน ตลาดรถเก๋งมือสองได้กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการยานพาหนะคุณภาพดีในราคาที่เอื้อมถึง โดยเฉพาะรถเก๋งมือสองที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมือง และ ทางไกล รถเก๋งมือสองในประเทศไทยมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและ ดีเซล ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้งาน งบประมาณ และความต้องการด้านประสิทธิภาพ หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกรถเก๋งมือสองแบบไหนดี บทความนี้จะเปรียบเทียบอย่างละเอียด โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจ ตามรายงานล่าสุดจากสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในปี 2025 ยอดขายรถมือสองได้เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน โดยรถเก๋งเบนซินครองส่วนแบ่งตลาดถึง 60% ขณะที่ดีเซลยังนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานทางไกล หรือธุรกิจก่อสร้าง ดังนั้นเราจะวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าควรเลือกแบบไหน

ที่มาของรถเก๋งมือสองในตลาดไทยปี 2025

ตลาดรถเก๋งมือสองในไทยได้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังจากราคารถใหม่ได้พุ่งสูงจากภาษีนำเข้า และ ต้นทุนวัตถุดิบ รถเก๋งมือสองเครื่องเบนซินมักมาจากแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota หรือ Honda ที่เน้นความนุ่มนวล และ ประหยัดในเมือง ขณะที่เครื่องดีเซลยอดนิยมนั้นมาจาก Mazda หรือ Ford ที่ให้แรงบิดสูงสำหรับขับทางไกล การซื้อรถเก๋งมือสองนั้นช่วยประหยัดงบได้ถึง 40-60% เมื่อเทียบกับรถใหม่ โดยรถเก๋งมือสองอายุ 5-10 ปี ราคาเริ่มต้นที่ 200,000-500,000 บาท แต่ในปี 2025 ปัจจัยอย่างราคาน้ำมันดีเซลที่ถูกกว่าเบนซิน 10-20% ทำให้รถดีเซลได้รับความสนใจ แต่รถเบนซินยังคงครองตลาดเพราะค่าบำรุงต่ำกว่า ผู้บริโภคควรพิจารณาการใช้งานหลัก เช่น ถ้าวิ่งในเมืองวันละ 50 กม. เบนซินอาจเหมาะกว่า แต่ถ้าวิ่งไกล ดีเซลจะคุ้มกว่า

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซลในรถเก๋งมือสอง

สำหรับรถเก๋งมือสองที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินนั้น โดยปกติแล้วจะใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง โดยจุดระเบิดด้วยหัวเทียน ทำงานราบเรียบ และ เงียบ จึงเหมาะกับการขับขี่ในเมือง ในรถที่จะต้องใช้ความเร็วสูง และ ยังมีการบำรุงรักษาโดยรวมง่าย และ ค่าใช้จ่ายถูกกว่า

ส่วนรถเก๋งมือสองเครื่องยนต์ดีเซลนั้นจะเป็นรถที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง มีการจุดระเบิดด้วยแรงอัด (ไม่ใช้หัวเทียนแบบเบนซิน) รอบแรงบิดจะสูงตั้งแต่รอบต่ำ เหมาะกับการขับระยะไกล หรือ บรรทุกหนัก และ ยังมีเครื่องยนต์ที่ทนทาน แต่ซ่อมใหญ่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า

แนะนำรถเก๋งมือสองรุ่นต่างๆของรถเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล

1.ประเภทรถเก๋งมือสองเครื่องเบนซินยอดนิยม

รถเก๋งมือสองเครื่องเบนซินนั้นได้รับความนิยม เพราะ เครื่องยนต์เงียบ นุ่มนวล และ เหมาะกับการขับในเมือง รุ่นยอดฮิต ได้แก่

  • Toyota Yaris Ativ: ปี 2017-2022 เครื่อง 1.2 ลิตร 92 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 18-20 กม./ลิตร ห้องโดยสารกว้าง อะไหล่หาง่าย ทนทานตามสไตล์ Toyota เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือ ครอบครัวเล็ก ข้อดี คือขับสนุก และ ค่าซ่อมต่ำ

  • Honda City: ปี 2014-2020 เครื่อง 1.5 ลิตร 117 แรงม้า ประหยัด 15-17 กม./ลิตร ดีไซน์สปอร์ต ช่วงล่างดีเยี่ยม ข้อดี คือ ขายต่อง่าย และ ระบบความปลอดภัยครบครัน

  • Mazda 2: ปี 2015-2021 เครื่อง 1.3 ลิตร 93 แรงม้า ประหยัด 20-23 กม./ลิตร ดีไซน์โฉบเฉี่ยว เทคโนโลยี Skyactiv ทำให้ขับสนุก เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบสไตล์สปอร์ต

รถเก๋งมือสองเบนซินเหล่านี้จะเหมาะกับการใช้งานในเมืองเพราะเครื่องไม่ร้อนเร็ว และ เสียงเงียบ แต่ในปี 2025 ราคาอาจสูงขึ้นจากความนิยม

2.ประเภทรถเก๋งมือสองเครื่องดีเซลยอดนิยม

รถเก๋งมือสองเครื่องดีเซลนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานหนัก เพราะมีแรงบิดสูง และ ประหยัดน้ำมัน รุ่นยอดฮิต ได้แก่

  • Mazda 2 (ดีเซล): ปี 2015-2021 เครื่อง 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ประหยัดถึง 26 กม./ลิตร ข้อดี คือ แรงบิด 250 นม. ทำให้เร่งแซงดี และ มีความทนทาน

  • Ford Fiesta: ปี 2013-2019 เครื่อง 1.5 ลิตร 90 แรงม้า ประหยัด 20-23 กม./ลิตร ดีไซน์สปอร์ต ช่วงล่างแน่น เหมาะสำหรับขับทางไกล

  • Chevrolet Cruze: ปี 2012-2018 เครื่อง 2.0 ลิตร 163 แรงม้า ประหยัด 15-18 กม./ลิตร แรง และกว้างขวาง ข้อดี คือ ราคาถูกแต่ยังทนอยู่

รถเก๋งมือสองดีเซลเหมาะกับการวิ่งไกลเพราะประหยัด แต่ค่าบำรุงอาจสูงกว่า

เปรียบเทียบข้อดี และ ข้อเสียของรถเก๋งมือสองเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล

1.ข้อดี และ ข้อเสียของเครื่องเบนซินในรถเก๋งมือสอง

ข้อดีของเครื่องเบนซินในรถเก๋งมือสอง

  • นุ่มนวล และ เงียบ: รถเก๋งมือสองเครื่องเบนซินจะทำงานเงียบกว่า ไม่สั่นสะเทือน เหมาะกับการขับในเมือง

  • ค่าบำรุงต่ำ: รถเก๋งมือสองเครื่องเบนซินอะไหล่หาง่าย ราคาถูก ไม่ต้องเปลี่ยนกรองดีเซลบ่อยๆ ค่าซ่อมเฉลี่ย 10,000-20,000 บาท/ปี

  • ประสิทธิภาพในเมือง: เร่งเร็วตั้งแต่รอบต่ำ ไม่ร้อนง่ายในจราจรติดขัด

  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า: รถเก๋งมือสองเครื่องเบนซินปล่อยมลพิษน้อยกว่าในบางรุ่น

ข้อเสียของเครื่องเบนซินในรถเก๋งมือสอง

  • กินน้ำมันมากกว่า: รถเก๋งมือสองเครื่องเบนซินในทางไกลอาจสิ้นเปลืองกว่าถึง 15-17 กม./ลิตร

  • แรงบิดต่ำ: รถเก๋งมือสองเครื่องเบนซินเร่งแซงช้ากว่าเมื่อบรรทุกรับน้ำหนักเต็มจำนวน

  • ราคาน้ำมันสูงกว่า: น้ำมันเบนซินมีราคาแพงกว่าดีเซลถึง 5-10 บาท/ลิตร

2.ข้อดี และ ข้อเสียของเครื่องดีเซลในรถเก๋งมือสอง

ข้อดีของเครื่องดีเซลในรถเก๋งมือสอง

  • ประหยัดน้ำมัน: รถเก๋งมือสองเครื่องดีเซล สามารถวิ่งไกลได้มากกว่า 20-26 กม./ลิตร คุ้มค่าสำหรับทางไกล

  • แรงบิดสูง: รถเก๋งมือสองเครื่องดีเซลมีการเร่งแซงดีกว่าแม้รอบต่ำ และ ทนทานต่อการใช้งานหนักๆ

  • ทนทานยาวนาน:รถเก๋งมือสองเครื่องดีเซลมีอายุการใช้งานนานกว่า 300,000 กม. หากบำรุงรักษาดีๆ

  • ราคาน้ำมันถูกกว่า: ราคาน้ำมันดีเซลถูกกว่าเบนซินชัดเจน

ข้อเสียของเครื่องดีเซลในรถเก๋งมือสอง

  • เสียงดัง และ สั่น: รถเก๋งมือสองเครื่องดีเซลดังกว่า โดยเฉพาะตอนสตาร์ท

  • ค่าบำรุงสูง: รถเก๋งมือสองเครื่องดีเซลต้องเปลี่ยนกรอง และ น้ำมันแพงกว่า เฉลี่ย 15,000-30,000 บาท/ปี

  • ไม่เหมาะกับการใช้ในเมือง: รถเก๋งมือสองเครื่องดีเซลนั้นร้อนง่ายในจราจรที่ติดขัด และ ปล่อยมลพิษมากกว่า

จากที่กล่าวมาจะพบว่าการเลือกระหว่าง รถเก๋งมือสองเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล ไม่มีแบบไหนดีกว่ากันในทุกกรณี แต่ขึ้นอยู่กับ ลักษณะการใช้งาน งบประมาณ และ ความต้องการส่วนตัว ซึ่งเครื่องเบนซิน เหมาะกับผู้ที่ขับในเมือง ไม่อยากกังวลเรื่องการซ่อม และ ต้องการความนุ่มนวล ส่วนเครื่องดีเซล เหมาะกับผู้ที่วิ่งทางไกลบ่อยๆ ต้องการประหยัดน้ำมัน และ เครื่องทนทาน โดยก่อนตัดสินใจ ควรทดลองขับ ศึกษาประวัติการซ่อมบำรุง และ เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพื่อให้ได้รถเก๋งมือสองที่คุ้มค่า และตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคุณที่สุด ดังนั้นหากสนใจรถเก๋งมือสองทั้งเครื่องเบนซิน และ ดีเซลนั้นเราขอแนะนำ บริษัท บอย ออโต้กรุ๊ป ศูนย์จำหน่ายรวมรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋งมือสองทั้งเครื่องเบนซิน และ ดีเซล หรือ รถรุ่นต่างๆนั้นมีให้เลือกมากมายในราคาย่อมเยาสภาพดี โดยมีชื่อเสียงในการนำเสนอรถคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ สถานที่ของเรามีรถให้เลือกมากกว่า 300 คัน รวมถึงรถเก๋ง กระบะ 4 ประตู รถ SUV มือสอง รถ 7 ที่นั่งมือสอง และ รถตู้มือสองซึ่งทุกคันผ่านการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียดเพื่อให้ลูกค้าได้รับรถที่มีคุณภาพ และ คุ้มค่ามากที่สุดนั้นเอง

 

ติดต่อสอบถาม
บริษัท บอย ออโต้กรุ๊ป
ที่อยู่: 114 ซอยสุวินทวงศ์4 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร
เบอร์โทรศัพท์: (063) 474-2288

บริษัท บอยออโต้กรุ๊ป จำกัด (00003) (สาขารามคำแหง)
ที่อยู่: เลขที่ 195/8 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240
เบอร์ติดต่อ : 087-324-4000
Line ID : @boy002

เปรียบเทียบรถยนต์