ความแตกต่างของรถเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล

แนะนำการเลือกใช้งานรถเครื่องยนต์เบนซิน หรือ ดีเซลว่าแบบไหนเหมาะกับเรา

หากเรากำลังมองหารถเก๋งมือสองสักคันหนึ่งหลายๆคนอาจจะกำลังสับสนว่าจะเลือกอย่างไรดี โดยการเลือกระหว่างรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซลถือเองก็เป็นหนึ่งในคำถามสำคัญสำหรับหลายๆคนที่กำลังวางแผนซื้อรถมือสองใหม่ หรือ เปลี่ยนรถคันเก่า ทั้งสองประเภทเครื่องยนต์เองก็มีจุดเด่น และ จุดด้อยที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน งบประมาณ และ ไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณเจาะลึกความแตกต่างในทุกมิติ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการที่สุด

หลักการพื้นฐานของรถเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล

1. เครื่องยนต์เบนซิน (Gasoline Engine)
   ในรถเครื่องยนต์เบนซินนั้นจะมีหลักทำงานโดยการผสมน้ำมันเบนซินกับอากาศแล้วจุดระเบิดด้วยหัวเทียน พลังงานที่ได้จากการระเบิดจะถูกแปลงเป็นแรงขับเคลื่อน ระบบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์เบนซินจะเน้นความรวดเร็วในการตอบสนอง ให้รอบเครื่องสูง และ เสียงที่นุ่มนวล
   
   
2. เครื่องยนต์ดีเซล (Diesel Engine)
   แต่หากเป็นรถเครื่องยนต์ดีเซลจะมีหลักการทำงานโดยการอัดอากาศให้มีความร้อนสูง แล้วฉีดน้ำมันดีเซลเข้าไปในห้องเผาไหม้ น้ำมันจะติดไฟเองโดยไม่ต้องใช้หัวเทียน เครื่องยนต์ดีเซลมีแรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการพละกำลังสูง

โดยเราจะพบว่าวัสดุ และ การออกแบบของรถเครื่องยนต์ดีเซลนั้นต้องการโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าเครื่องยนต์เบนซินเนื่องจาก เพื่อรองรับแรงอัดที่สูงกว่า จึงมีน้ำหนักเครื่องมากกว่ารถเบนซิน

ความแตกต่างด้านต่างๆของรถเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล

1. การตอบสนองของเครื่องยนต์
   ในรถเครื่องยนต์เบนซินนั้นจะมี ตอบสนองที่รวดเร็วกว่าดีเซล ซึ่งจะเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง หรือขับด้วยความเร็วสูงเป็นหลัก แต่ในรถเครื่องยนต์ดีเซลนั้นจะมีความหน่วงช่วงออกตัวเล็กน้อย แต่ให้แรงบิดมหาศาล เหมาะกับการขับทางไกล หรือ งานบรรทุกหนัก
   
   
2. ในด้านความเร็วสูงสุด
   ในรถเบนซินส่วนใหญ่นั้นมักทำความเร็วสูงสุดได้ดีกว่ารถดีเซล ด้วยข้อได้เปรียบในรอบเครื่องที่สูงกว่า
   
   
3. ความแตกต่างด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
   ในเครื่องยนต์ดีเซลนั้นจะประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์เบนซินประมาณ 20–30% เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกลสูงกว่า แต่ในเครื่องยนต์ดีเซลมักมีค่าความร้อนสูงกว่าต่อหน่วยปริมาตรของเชื้อเพลิง จึงได้ระยะทางต่อการเติมน้ำมันหนึ่งถังวิ่งได้ไกลกว่า
   
   
4. ความแตกต่างด้านค่าบำรุงรักษา
   ในด้านค่าซ่อมบำรุงสำหรับเครื่องยนต์เบนซินนั้นจะมี ค่าบำรุงรักษา และ ซ่อมแซมโดยรวมต่ำกว่า เพราะระบบเครื่องยนต์ซับซ้อนน้อยกว่า แต่ในเครื่องยนต์ดีเซลนั้นจะมี ค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูงกว่า เนื่องจากโครงสร้างภายในทนแรงดันสูง และ ส่วนประกอบเช่นปั๊มเชื้อเพลิงหัวฉีดก็มีราคาสูง
   
   ส่วนในเรื่องอายุการใช้งานในเครื่องยนต์ดีเซลนั้นมักมีอายุการใช้งานนานกว่าเครื่องยนต์เบนซิน เพราะได้รับการออกแบบให้ทนต่อแรงกดดัน และ การทำงานหนักได้ดีกว่า
   
   
5. ความแตกต่างด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
   ในด้านการปล่อยไอเสียนั้นในเครื่องยนต์เบนซินจะมีการ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) มากกว่าเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งในเครื่องยนต์ดีเซลแม้ว่าจะปล่อย CO₂ น้อยกว่า แต่ปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และ ฝุ่นละออง (PM) มากกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศสูงกว่า เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ รถดีเซลสมัยใหม่จึงต้องติดตั้งระบบกรองอนุภาคดีเซล (DPF) และ ระบบลด NOx เช่น SCR เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
   
   
6. ความแตกต่างด้านราคา และ ความคุ้มค่า
   สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อรถมือสองที่เป็นรถดีเซลมักมีราคาสูงกว่ารถเบนซินประมาณ 10-20% เนื่องจากต้นทุนการผลิตเครื่องยนต์สูงกว่า แต่หากต้องใช้งานรถในระยะทางไกล หรือ มีภาระบรรทุกหนัก รถดีเซลจะคืนทุนได้เร็วกว่า เพราะประหยัดน้ำมันมากกว่า หากต้องขับขี่ในระยะสั้นในเมืองเป็นส่วนใหญ่ รถเบนซินจะคุ้มค่ากว่า ทั้งในด้านต้นทุนเริ่มต้น และ ค่าบำรุงรักษา นั้นเอง

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่าในรถเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซลนั้นมีความต่างกัน และ มีจุดเด่นจุดด้อยที่เหมาะกับลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน หากคุณต้องการรถที่ขับสนุก เสียงเงียบ ค่าบำรุงต่ำ รถเบนซินอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า แต่หากคุณต้องการความประหยัดในระยะยาว หรือ มีการใช้งานหนัก วิ่งระยะทางไกล รถดีเซลจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ซึ่งการเลือกซื้อรถคันใหม่ หรือ รถเก๋งมือสองอย่างเหมาะสม นั้นจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย และ ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด ดังนั้นหากกำลังคิดจะซื้อรถมือสองนั้นเราขอแนะนำ บริษัท บอย ออโต้กรุ๊ป ศูนย์จำหน่ายรวมรถยนต์ ไม่ว่าจะรถเครื่องยนต์ดีเซล หรือ เบนซินนั้นมีให้เลือกมากมายราคาถูกสภาพดีที่มีชื่อเสียงในการนำเสนอรถคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ สถานที่ของเรามีรถให้เลือกมากกว่า 300 คัน รวมถึงรถเก๋งมือสอง กระบะ 4 ประตู รถ SUV มือสอง รถ 7 ที่นั่งมือสอง และ รถตู้มือสองซึ่งทุกคันผ่านการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียดเพื่อให้ลูกค้าได้รับรถที่มีคุณภาพ และ คุ้มค่ามากที่สุดนั้นเอง

ติดต่อสอบถาม

บริษัท บอย ออโต้กรุ๊ป
ที่อยู่: 114 ซอยสุวินทวงศ์4 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร
เบอร์โทรศัพท์: (063) 474-2288

บริษัท บอยออโต้กรุ๊ป จำกัด (00003) (สาขารามคำแหง)
ที่อยู่: เลขที่ 195/8 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240
เบอร์ติดต่อ : 087-324-4000
Line ID : @boy002